การใส่น้ำ
การใช้น้ำมาเลี้ยงปลาตู้นี้ ก็มีหลายท่านที่นิยมใช้นำจากแหล่งน้ำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตามบ่อ สระ หนอง คลอง บึง เลี้ยงปลา โดยเข้าใจว่าเป็นน้ำที่เหมาะอย่างยิ่งกับการเลี้ยงปลา และไม่มี
คลอรีนปนอยู่ อย่างไรก็ดีแท้ที่จริงแล้วน้ำดังกล่าวนี้ต่างก็มีจุลินทรีย์เล็ก ๆ ปะปนอยู่ด้วยมาก
ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้อาจเป็นตัวเชื้อโรคบางชนิดที่จะทอันตรายต่อปลาที่เลี้ยงได้
สำหรับน้ำที่ใช้เลี้ยงปลาตู้ได้ดีที่สุดแล้วก็คือ ประปาแต่ทว่ามิใช่เป็นน้ำที่ไขออกจาก
มาใส่ตู้ปลาเลย จำเป็นต้องเตรียมน้ำตามกรรมวิธีเสียก่อนจึงจะปลอดภัยสามารถนำมาใช้เลี้ยง
ปลาได้ ทั้งนี้ก็เนื่องจากว่าน้ำประปา เป็นน้ำที่มีคลอรีน อันเป็นสารที่ใช้ฆ่าเชื้อโรคปนอยู่มาก
เป็นอันตรายต่อปลาทุกชนิด เมื่อจะนำน้ำประปามาใช้เลี้ยงปลาตู้ จึงควรรองน้ำจากก๊อกมาตาก
แดดปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อย 1-3 วัน

1. ระบบกรองน้ำ ก็มีหลายระบบด้วยกัน แต่ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ระบบ
กรองใต้ทราย ซึ่งใช้ได้ผลและมีประสิทธิภาพดีช่วยให้น้ำอยู่ในสภาพ
ที่สมบูรณ์ที่สุด

2. เครื่องปั๊มอากาศ นับว่าสำคัญต่อการเลี้ยงปลาชนิดนี้มากทีเดียวเพราะ
เครื่องปั๊มอากาศ ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำ ทำให้ปลา
ที่เลี้ยงสดชื่นสามารถอาศัยอยู่ในตู้ที่มีเนื้อที่จำกัดได้โดยปลอดภัย แต่
บางครั้งมักประสบกับปัญหาไฟฟ้าดับ ทำให้เครื่องปั๊มอากาศ ไม่ทำงาน
เช่นกัน ฉะนั้นควรมีเครื่องปั๊มอากาศชนิดใช้แบตเตอรี่สำรองไว้ใช้ใน
ยามฉุกเฉินเช่นนนีด้วย

3. ฮีทเตอร์ อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถช่วยเพิ่มอุณหภูมิในน้ำ ซึ่งนับว่า มี
ความสำคัญต่อการเพาะเลี้ยง ปลาปอมดัวร์ มากเลยทีเดียว จริงอยู่ที่ว่า
อากาศในบ้านเราร้อนพอต่อการเพาะเลี้ยงปลาชนิดนี้ ทว่าการเปลี่ยน
แปลงของฤดูกาลย่อมมีผลทำให้อุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนแปลง ได้มากพอ
สมควร โดยเฉพาะในระหว่างเดือน พฤศจิกายนถึงเดือนมกราคมเป็น
ช่วงที่อากาศค่อนข้างเย็น โดยเฉพาะในยามค่ำคืนอุณหภูมิของน้ำจะต่ำ
กว่าปกติ จนเป็นเหตุให้บางครั้งปลาไม่ยอมกินอาหารและมักป่วย เป็น
โรคแทรกซ้อนต่าง ๆ อันนับเป็นช่วงที่เลี้ยงปลายากที่สุด ในการแก้ไข
โดยด่วนอันดับแรกก็คือ การเพิ่มอุณหภูมิของน้ำโดยใช้ฮีทเตอร์ ปรับ
เพิ่มอุณหภูมิให้เหมาะสม กับความต้องการของปลาควบคู่กับการใช้ยา
รักษาโรค ซึ่งจะช่วยให้ปลาหายป่วยจากโรคได้เร็ว